บทความโดยก้องทภพ แก้วศรี
ละทิ้งหน้าที่ราชการ หมายถึง การไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยไม่แจ้งเหตุให้ทราบ (หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า ขาดราชการ) กรณีมาลงชื่อในบัญชีลงเวลามาปฏิบัติราชการ แต่ตัวไม่อยู่ปฏิบัติราชการที่หน่วยงาน ถือเป็นการละทิ้งหน้าที่ราชการเช่นเดียวกัน
ทอดทิ้งหน้าที่ราชการ หมายถึง มาปฏิบัติหน้าที่ราชการ แต่ไม่ทำงาน ปล่อยเวลาให้ล่วงเลย เอางานอื่น งานส่วนตัวมาทำ หรือไม่ใส่ใจในงาน (หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่ามีผลประโยชน์ส่วนตนทับซ้อนกับผลประโยชน์ส่วนรวม) เช่น ครูมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ แต่ในคาบสอน ไม่เข้าสอน หรือเข้าสอนแต่ไม่สอน นั่งเล่นโทรศัพท์ เป็นต้น
ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ เป็นการกระทำความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มีสถานโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน หรืออาจจะไม่ลงโทษโดยว่ากล่าวตักเตือนหรือทำทัณฑ์บนไว้ แต่ถ้าการละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทางราชการ ก็เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงที่มีอัตราโทษ ปลด หรือไล่ออกจากราชการได้
ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ เป็นการกระทำความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มีสถานโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน หรืออาจจะไม่ลงโทษโดยว่ากล่าวตักเตือนหรือทำทัณฑ์บนไว้ แต่ถ้าการละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทางราชการ ก็เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงที่มีอัตราโทษ ปลด หรือไล่ออกจากราชการได้
กรณีละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ถือเป็นการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ที่เป็นความผิดปรากฎชัดแจ้ง ที่อาจพิจารณาให้งดการสอบสวนก็ได้ ตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยความผิดที่ปรากฎชัดแจ้ง พ.ศ. 2549 และหากเป็นกรณีที่ไม่กลับมาปฏิบัติราชการอีกเลย ต้องลงโทษไล่ออกจากราชการตั้งแต่วันละทิ้งหน้าที่ราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรี ตามหนังสือสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0205/ว. 234 ลงวันที่ 24 ธนวาคม 2536
และงดการจ่ายเงินเดือนตั้งแต่วันที่ละทิ้งหน้าที่ราชการ ตามพระกฤษฏีาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 มาตรา 16 ดังนั้น เมื่อปรากฎว่ามีข้าราชการในสังกัดละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวัน ให้รีบดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งแจ้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินเดือนทราบ เพื่อระงับการจ่ายเงินเดือนไว้ก่อน
กรณีละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันไม่เกินสิบห้าวัน เช่น ละทิ้งไป 15 วัน มาหนึ่งวัน ละทิ้งอีก 15 วัน เพื่อมิให้เกินสิบห้าวัน หรือละทิ้ง 1 วัน 2 วันหรือกว่านั้น แต่ไม่เกินสิบห้า และละทิ้งหลายคราว ถ้าผู้มีอำนาจพิจารณา เห็นว่าไม่เข้าเหตุในการลาตามระเบียบกฎหมายของราชการที่ข้าราชการผู้นั้นมีสิทธิ และไม่อนุญาตให้ลา ถือว่าข้าราชการผู้นั้น ละทิ้งหน้าที่ราชการหรือขาดราชการ เป็นความผิดวินัยในเรื่องนี้ เช่น
ผู้บังคับบัญชาให้ไปอบรม ประชุม สัมมนา แต่ไม่ได้ไปเข้าร่วมตามกำหนด ขณะเดียวกันก็ไม่มาปฎิบัติงานที่หน่วยงานในวันดังกล่าว เมื่อผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง ผู้นั้นจึงยื่นใบลาป่วย เมื่อผู้บังคับบัญชาตรวจสอบแล้วผู้นั้นไม่ได้ป่วยจริง จึงไม่อนุญาตให้ลาป่วย ทำให้ผู้นั้นกระทำผิดวินัยในเรื่อง ขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และละทิ้งหน้าที่ราชการ (ขาดราชการ) ต้องถูกดำเนินการทางวินัยและลงโทษ งดการจ่ายเงินเดือนในวันที่ขาดราชการ และไม่ได้รับการเลื่อนเงินเดือน
หากการละทิ้งหน้าที่ราชการดังกล่าวเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ก็จะเป็นความผิดอย่างร้ายแรงได้เช่นเดียวกัน ในส่วนของเงินเดือน ต้องไม่จ่ายเงินเดือนในวันที่ละทิ้งหน้าที่ราชการ ตามพระกฤษฏีาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 มาตรา 16 และไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนในรอบพิจารณานั้นด้วย ตาม กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลือนเงินเดือนข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา
**********************
ขอขอบคุณ
ภาพจากเว็บไซด์ https://www.freepik.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น